วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563



โครงงานวิทยาศาสตร์ระดับปฐมวัย
 บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย
เรื่อง สมุนไพรดับกลิ่น



จัดทำโดย นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๓
ครูที่ปรึกษา นางสาวพอพันธุ์ ผลเกิด
    นางสาวธนาภา อิ่มใจ

โรงเรียนบ้านนาบัว ตำบลนาบัว อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๑


ที่มาและความสำคัญ

          “เศรษฐกิจพอเพียง”เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีเพื่อชี้แนะแนวทางดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทย ทรงเน้นย้ำแนวทางการพัฒนาที่อยู่บนพื้นฐานของการพึ่งตนเอง ความพอมี พอใช้ การรู้จักพอประมาณการคำนึงถึงความมีเหตุผล ส่งเสริมความประหยัดในครัวเรือนจากแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โครงงานระดับปฐมวัยเรื่อง “สมุนไพรดับกลิ่น” เป็นโครงงานที่ต่อยอดจากการที่นักเรียนได้ทดลองกิจกรรมเรื่อง “ ลมอ่อนๆพัดผ่านห้อง” และครูได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนเรื่อง กลิ่น ว่าในโรงเรียนห้องไหนที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยครูพาเด็กๆเดินสำรวจในโรงเรียน และชุมชนบ้านนาบัวและเด็กได้พบกับตะไคร้หอม ใบเตย และมะกรูด นักเรียนจึงเกิดความสงสัยว่า สมุนไพรดับกลิ่นได้จริงไหม จึงอยากค้นหาคำตอบ โดยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในรูปแบบของโครงงาน โดยได้รับความสนับสนุนและความร่วมมือจากผู้ปกครองของเด็ก ที่ช่วยจัดเตรียมอุปกรณ์การทดลองได้แก่ ตะไคร้หอม ใบเตย
การซื้อน้ำยาดับกลิ่นห้องน้ำตามท้องตลาดมาใช้นั้นจะมีราคาแพงซึ่งส่วนใหญ่จะผลิตจากสารเคมีทำให้เกิดอันตรายต่อสภาพแวดล้อม จึงศึกษาสมุนไพรที่หาง่ายในท้องถิ่นและเป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเช่น ใบเตย ผิวมะกูด ตะไคร้ มาทดลองกลิ่นหอมของสมุนไพรเพื่อเปรียบเทียบปริมาณที่เหมาะสมและชนิดของสมุนไพรที่สามารถกำจัดกลิ่นในสถานที่ต่างๆเช่น ห้องน้ำ สถานที่ ที่มีกลิ่นอับ ซึ่งจากการศึกษาพบว่าสมุนไพรที่เหมาะสมสามารถกำจัดกลิ่นได้ดีที่สุดคือ ผิวของมะกรูด รองลงมาก็คือ ใบเตยส่วนสุดท้ายก็คือตะไคร้

วัตถุประสงค์
1.       เพื่อมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่เหมาะสมกับเด็กระดับปฐมวัย
2.       เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการกำจัดกลิ่นของ ใบเตย ผิวมะกูดและตะไคร้
3.       เพื่อศึกษาประโยชน์ของสมุนไพรและเพิ่มคุณค่าของสมุนไพรในท้องถิ่น


สมมุติฐาน

สมุนไพรต่างชนิด มีความสามารถในการกำจัดกลิ่นต่างกัน

ตัวแปรที่เกี่ยวข้อง
ตัวแปรต้น
-           ชนิดของสมุนไพร ได้แก่ มะกรูด ตะไคร้ ใบเตย
ตัวแปรตาม
-           ความสามารถในการกำจัดกลิ่น
ตัวแปรควบคุม
-           ปริมาณของสมุนไพร
-           สถานที่

การบูรณาการกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ความพอประมาณ
1. เด็กๆ เรียนรู้จากสิ่งที่ใกล้ตัว จากความต้องการของตนเอง
2. ระดมความคิด วางแผนจัดหาสมุนไพรที่หาได้ง่ายในชุมชน
3. มีความเหมะสมตามวัย เนื้อหา และเวลา
ความมีเหตุผล
๑. เพื่อทดสอบระยะเวลาการกำจัดกลิ่นของสมุนไพร
๒. เพื่อมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่เหมาะสมกับวัย
ความมีภูมิคุ้มกันที่ดี
๑. มีจิตวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เด็กๆ
๒. สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่ขาดวิตามินซี
เงื่อนไขความรู้
๑. มีความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
๒. มีความรอบคอบ ระมัดระวังในการใช้อุปกรณ์การทดลองอย่างปลอดภัย
เงื่อนไขคุณธรรม
๑. มีความรับผิดชอบ กระตือรือร้นในการทดลอง       
๒. มีความประหยัด ใช้สมุนไพรจากในท้องถิ่น
๓. มีความสามัคคี ช่วยกันจัดเก็บอุปกรณ์

วัสดุอุปกรณ์และวิธีการดำเนินงาน 
วัสดุอุปกรณ์
1.       สมุนไพร ได้แก่ มะกรูด ตะไคร้ และใบเตย
2.       กระดาษสาลวด
3.       มีด ,เขียงถาด ,ซ้อน ,กรรไกร

วิธีการดำเนินงาน
1.       เตรียมอุปกรณ์ คือ เขียง มีด กรรไกร และภาชนะใส่สมุนไพร


นำมะกรูด ใบเตย ตะไคร้ มาตัด และหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ


 ตัดกระดาษสาเตรียมห่อสมุนไพร



นำผิวมะกรูด ใบเตย และตะไคร้ที่หั่นแล้วมาวางบนกระดาษ พร้อมที่จะห่อ


นำลวดตกแต่งมามัด และติดป้ายให้สวยงาม



เราก็จะได้สมุนไพรไปวางในที่ที่มีกลิ่นอับ และเหม็น คือ ในห้องน้ำ


บันทึกผลการทดลองโดยการวาดรูป


 สรุปผลการทดลองและนำเสนอโครงงาน


 นำสมุนไพรดับกลิ่นไปวางไว้ในห้องน้ำ



ผลการศึกษา
จากการทดลองทั้ง ครั้ง สรุปได้ว่า สมุนไพร 3 ชนิดนี้ สามารถดับกลิ่นได้ดีพอสมควร ซึ่งผิวของมะกรูดสามารถดับกลิ่นได้ดีสุด ส่วนใบเตยนั้นสามารถดับกลิ่นในตู้ได้ดีที่สุด และตะไคร้ดับกลิ่นได้เล็กน้อย

ชนิดของสมุนไพร
ผลการทดลอง
ครั้งที่ 1
ครั้งที่ 2
ครั้งที่ 3
1.       ใบเตย
มีกลิ่นหอม
มีกลิ่นหอม
มีกลิ่นเล็กน้อย
2.       ผิวมะกรูด
มีกลิ่นหอม
มีกลิ่นหอม
มีกลิ่นหอม
3.       ตะไคร้
มีกลิ่นเล็กน้อย
มีกลิ่นเล็กน้อย
ไม่มีกลิ่น


อภิปรายผลการศึกษา
จากการทดลองพบว่ากลิ่นของสมุนไพรจากผิวมะกรูด กำจัดกลิ่นห้องน้ำได้และสามารถนำไปใช้ในสถานที่ที่มีกลิ่นอับทำให้อากาศสดชื่นกำจัดกลิ่นเหม็นได้ ซึ่งผิวมะกรูดนี้มีกลิ่นที่หอมแรงและสามารถดับกลิ่นได้ดี และทำให้บริเวณหอมกลิ่นสมุนไพรที่เราทำเองโดยที่เราไม่ต้องซื้อ

สรุปผลการศึกษา
          จากการศึกษาสรุปได้ดังนี้
สมุนไพรที่มีในชุมชน มีความสามารถในการดับกลิ่นตามลำดับ ดังนี้
1.       มะกรูด
2.       ใบเตย
3.       ตะไคร้
การศึกษาเรื่อง สมุนไพรดับกลิ่น” เป็นการปลูกฝังให้เด็กรู้เรื่องของท้องถิ่น เห็นคุณค่าของสมุนไพร
ในหมู่บ้าน และปลูกฝังคุณลักษณะของความพอเพียงด้วย

ประโยชน์ที่ได้รับ
1.       การเพิ่มคุณค่าให้กับสมุนไพรในท้องถิ่น
2.       การลดมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม
3.       การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นกับวิทยาศาสตร์ให้เกิดประโยชน์
4.       การมีคุณลักษณะความพอเพียงนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

การพัฒนาโครงงาน
1.       การพัฒนาต่อยอดการใช้สมุนไพรอย่างอื่น
2.       การเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์
3.       การสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น

ข้อเสนอแนะ
1.       การทดลองในครั้งนี้เป็นการทดลองเปรียบเทียบสมุนไพร 3 ชนิด คือ ผิวมะกรูด ใบเตย และตะไคร้ ควรมีการทดลองเปรียบเทียบในอัตราส่วนอื่นๆ
2.       ควรใช้สมุนไพรชนิดอื่นๆด้วยและวิธีการทดลองแบบอื่น
3.       ควรนำไปทดลองดับกลิ่นในสถานที่อื่นๆให้มากกว่านี้
4.       การดำเนินงานกิจกรรมโครงงานปฐมวัย ครูที่ปรึกษาควรกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด

การวัดและประเมินผล
1. สิ่งที่ต้องการวัด
          1. การอธิบายเรื่องสมุนไพรดับกลิ่น
          2. การทดลองเรื่องสมุนไพรดับกลิ่น
          3. การร่วมกิจกรรม
2. วิธีการวัด
          1. การสังเกต
          2. การสนทนา/ตอบคำถาม
          3. การตรวจผลงาน
3. เครื่องมือวัด
          1. แบบสังเกตพฤติกรรม
          2. แบบประเมินพฤติกรรมด้านคุณลักษณะ
          3. แบบประเมินผลงาน
4. เกณฑ์การวัดผล
         
ประเมินการประเมิน

ระดับคุณภาพ
3
2
1
1. การบอก/อธิบายเรื่องสมุนไพรดับกลิ่น
การบอก/อธิบายเรื่องสมุนไพรดับกลิ่นได้ด้วยตนเองอย่างมั่นใจ
การบอก/อธิบายเรื่องสมุนไพรดับกลิ่นได้อย่างเดียวเท่านั้นได้แต่ต้องได้รับคำชี้แนะ
ไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องสมุนไพรดับกลิ่นแต่สนใจจากเพื่อนๆอธิบาย
2. การทดลองเรื่องสมุนไพรดับกลิ่น
มีความพยายามในการทดลองสมุนไพรดับกลิ่นจากกิจกรรมด้วยตนเองอย่างมั่นใจ
มีความพยายามในการทดลองสมุนไพรดับกลิ่นไม่สามารถจัดทำให้เกิดได้
ไม่มีความพยายามในการทดลองสมุนไพรดับกลิ่นชอบดูมากกว่าจะทำเอง
3. การร่วมกิจกรรม
สนใจ/กระตือรือร้นในการร่วมกิจกรรม
สนใจในการร่วมกิจกรรมตามที่กำหนดแต่ต้องได้รับการชี้แนะ
ร่วมกิจกรรมแต่ไม่สนใจผลการทดลอง
                                                                                                                  
รายชื่อผู้ทำโครงงาน
1เด็กชายธนวิชญ์        ทองแม้น
2เด็กชายภณธนัต        คลายโศก
3เด็กชายภาณุกร        พิลา
4เด็กชายภานุภัทร       เกิดโชค
5เด็กชายวชิรวิทย์        พันธ์ยา
6เด็กชายศุภกร          จารึกดี
7เด็กชายสิทธิชัย         ระลึกดี
8เด็กชายอภินันท์        คงสุวรรณ
9เด็กหญิงกชนันท์        มีงามดี
10เด็กหญิงชฎาทิพย์     พงชะอุ่ม
11เด็กหญิงณิชาพัชร์     สร่ายหอม
12เด็กหญิงนันทิกานต์   ถวิลสุข
13เด็กหญิงมณีพร        ท่อนทอง
14เด็กหญิงลักษณ์นารา นิโยนรัมย์
15เด็กหญิงวลิดา         สุพรรณภพ
16เด็กหญิงศิวาการ      ผ่องใส
17เด็กหญิงสุนิสา        บุตรเงิน
18เด็กชายธนพัทธ์       พัฒมะนา

ครูที่ปรึกษา 
นางสาวพอพันธุ์ ผลเกิด
นางสาวธนาภา อิ่มใจ
ขอขอบคุณ
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาบัว นางพงศ์รัตน์ ถาวจัตุรัส คณะครูทุกท่าน และผู้ปกครองของนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ที่ให้ความร่วมมือในการหาวัตถุดิบในการทำโครงงาน